ความหมายของการตลาด

การตลาด(Marketing) มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน และได้มีผู้ให้ความหมายหรือนิยามของการตลาดไว้เป็นจำนวนมาก เช่น
Peter Drucker ให้ความหมายของการตลาด ดังนี้ "การตลาด คือความพยายามทำให้การขายขยายกว้างออกไป และด้วยความรวดเร็วที่สุด"
William J. Stanton ได้ กล่าวไว้ว่า "การตลาด หมายถึง กิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมด ที่สามารถส่งผลกระทบระหว่างกันได้ เช่น การกำหนดราคา การจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการ และการส่งเสริมการตลาด เพื่อให้ตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้า ทั้งในปัจจุบันและผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคต"
สมาคมการตลาดแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Marketing Association: AMA) ให้ให้นิยามคำว่าการตลาดไว้ดังนี้ "การตลาด หมายถึง กระบวนการวางแผนและบริหารในด้านแนวความคิด การกำหนดราคา การส่งเสริมการตลาด การจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับความสุขความพอใจและบรรลุวัตถุประชสงค์ขององค์กร"
Dr. Philip Kotler ศาสตราจารย์หรือกูรูด้านการตลาดที่มีชื่อเสียงของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้นิยามของการตลาดว่า "การตลาด คือ กระบวนการทางสังคมและการจัดการที่ทำให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลได้รับสิ่งที่ตอบ สนองความจำเป็น (needs) และความต้องการ (wants) โดยอาศัยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและนำไปแลกเปลี่ยนกับบุคคลอื่น”

การตลาด คือ การนำสินค้าหรือบริการเคลื่อนที่จากผู้ผลิดไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งมี 3 วิธีหลัก ในการเคลื่อนสินค้าหรือบริการ

  1. Retailing หรือ การขายปลีก คิดว่าทุกคนรู้จักคุ้นเคยกับระบบนี้ดีอยู่แล้ว เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคน มันคือการเดินเข้าไปในร้านขายของอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเราเรียกว่า Retailer หรือผ้ค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของชำ ร้านขายยา ร้านขายวัสดุก่อสร้าง หรือห้างสรรพสินค้า ฯลฯ แล้วซื้อสินค้าที่คุณต้องการออกมา
  2. Direct Sales หรือ การขายตรง คือการนำสินค้าเคลื่อนที่เข้าไปสู่ผู้บริโภค ผ่านช่องทางและเทคนิคการขายโดยไม่มีคนกลางตามแบบข้อที่1 เช่น ร้าน Retail หรือ บริษัทตัวแทนจำหน่ายเช่น การไปตามบ้านคนที่คาดหมายว่าน่าจะเป็นลูกค้าได้เพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปนำเสนอสินค้าให้กับบุคคลต่างๆ การขายตรงบางครั้งถือว่าเป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง
  3. Multi-Level Marketing หรือ การตลาดแบบเครือข่าย บางครั้งก็เรียก MLM ว่าเป็นNetwork Marketing เพราะเป็นการสร้างเครือข่ายที่ทำให้มีการกระจายสินค้าโดยตัวของคุณเอง โดยการขายจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาโดยธรรมชาติจากการสร้างองค์กร เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การขายก็ยังคงเป็นรากฐานของธุรกิจทุกประเภท เพียงแต่การขายในธุรกิจเครือข่ายนั้นมาจากการที่ผู้จำหน่าย"แบ่งปัน" ธุรกิจ คือคนในเครือข่ายจะซื้อสินค้าได้ในราคาขายส่ง (ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าคุณควรจะเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง)หลายคนเข้าร่วมทำธุรกิจเพราะเหตุผลข้อนี้ คือไม่ได้เน้นเรื่องการขายเป็นหลัก ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้นมาจาก "การสร้างองค์กร"
ทั้ง 3 วิธีที่กล่าวมาถือเป็นรูปแบบของการตลาดที่แท้จริง และได้รับการยอมรับตามกฎหมาย แต่ในปัจจุบันได้มีธุรกิจรูปแบบใหม่เกิดขึ้น ซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้รับการเรียกว่าเป็นธุรกิจ แบบปิรามิด หรือแชร์ลูกโซ่นั่นเอง และมักถูกเข้าใจสับสนกับ MLM ทำให้ธุรกิจ MLM ถูกมองไปในทางไม่ดี แชร์ลูกโซ่นั้นเป็นการเอาเงินที่ได้รับจากคนที่มาสมัครต่อในลำดับล่างขึ้นมาโปะให้กับคนทางด้านบน ซึ่งธุรกิจแบบนี้นั้นในปัจจุบันยังถือว่าผิดกฎหมาย เพราะว่ามันไม่มีหรือไม่สามารถที่จะเคลื่อนทีผลิตภัณฑ์ หรือ บริการไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

MLM Onlife For Life

MLM Online For Life ©Template by Dicas Blogger.

TOPO