การตลาดแบบเครือข่าย VS แชร์ลูกโซ่

คุณอาจเคยได้ยินได้ฟังข้อมูลด้านลบมาจากคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจเครือข่ายในเมืองไทย ซึ่งส่วนใหญ่ยังเข้าใจแบบผิดๆ โดยส่วนใหญ่มักมองไปในทางว่าเป็นแชร์ลูกโซ่

นี่เป็นข้อแตกระหว่างธุรกิจเครือข่ายกับแชร์ลูกโซ่ ซึ่งได้ข้อมูลมาจาก สมาคมขายตรงไทย ว่าธุรกิจเครือข่ายแตกต่างจากปีรามิดหรือแชร์ลูกโซ่อย่างไร



การตลาดแบบเครือข่าย
ระบบปีรามิดหรือแชร์ลูกโซ่
1. ค่าธรรมเนียมในการเริ่มต้นทำธุรกิจจะต่ำ เป็นค่าสมาชิก และคู่มือทำธุรกิจหรือชุดสินค้าตัวอย่างเท่านั้น
1. ค่าธรรมเนียมในการสมัครสมาชิกใช้เงินทุนสูง ผู้สมัครถูกหลอกให้จ่ายค่าฝึกอบรมและซื้อสินค้าที่เกินความต้องการ
2. มีสินค้าหลากหลายชนิด และมีคุณภาพสูง เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำ บริษัทจึงใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สูง
2. ไม่สนใจขายสินค้าอย่างจริงจัง สินค้ามีคุณภาพต่ำ สินค้ามีไว้เพื่อบังหน้าเท่านั้นรายได้มาจากการสมัครสมาชิกใหม่
3. บริษัทมีการรับประกันคุณภาพและความพึงพอใจ
มีการคืนเงินหรือสินค้าได้ในเวลาที่กำหนด
3. ไม่มีนโยบายรับคืนสินค้า เพราะอาจทำให้ระบบปีรามิดล่มได้
4. ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจระยะยาวเพราะบริษัทมีความรับผิดชอบต่อตัวแทนของตน
4. ผู้เข้าร่วมธุรกิจที่ฐานของปีรามิดจ่ายเงินให้คนไม่กี่คนที่อยู่บนยอดปีรามิด
ทำให้ธุรกิจอยู่ไม่ได้นาน
5. มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ มีข้อบังคับข้อห้ามในการกักตุนสินค้า
5. ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ผู้เข้าร่วมธุรกิจถูกบังคับให้ซื้อสินค้าตั้งแต่เริ่มสมัครในราคาสูง
6. เป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นการขายสินค้าอีกแบบนอกเหนือจากการขายตามร้านขายปลีก ต้องจดทะเบียนประกอบธุรกิจกับหน่วยงานของรัฐ
6. เป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ไม่สามารถจดทะเบียนประกอบธุรกิจได้


MLM Onlife For Life

ธุรกิจเครือข่าย กับ ธุรกิจขายตรง

ผู้คนส่วนมากเมื่อได้ยินคำว่าธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM มักจะมีทัศนคติตีความไปในทางลบ อาจเป็นเพราะผู้คนเหล่านั้นติดภาพของการหอบหิ้วสินค้าไปเคาะประตูบ้าน หรือเอาของไปขายให้กับคนรู้จัก หรือเพื่อน และก็มักจะสิ้นสุดลงด้วยการไปยัดเยียดขายให้กับญาติของตนเองเมื่อขายไม่ได้ ซึ่งงานในลักษณะนี้ ในทางการตลาด เราถือเป็นงานขาย ที่เรียกว่าขายตรง หรือ Direct Sales แตกต่างไปจาก งานธุรกิจเครือข่าย หรือ MLM ชื่อเต็มๆว่า Multi-Level Marketing บางทีก็เรียกว่าการตลาดแบบหลายชั้น หรือขายตรงหลายชั้น เพราะ ธุรกิจเครือข่ายเป็นเรื่องของการสร้างเครือข่ายในการบริโภคสินค้า แต่นั่นคงเป็นเพราะภาพเก่าๆ เหล่านี้ที่ทำให้หลายคน มองธุรกิจเครือข่ายไปในทางลบ เนื่องด้วยลักษณะการทำงาน การสร้างเครือข่ายจำเป็นต้องมีการชวนคน ส่วนใหญ่จะใช้คำศัพท์ว่า”สปอนเซอร์” ทั้งคนที่รู้จัก หรือเพิ่งจะรู้จัก รวมไปถึงใครก็ตามที่เราสามารถพูดคุย สนทนาได้ รวมถึง ญาติพี่น้อง เพื่อน ตั้งแต่ประถมจนปัจจุบัน เป็นเอาหมด เพื่อทำการสปอนเซอร์ และด้วยการสปอนเซอร์หรือการชวนคนนี้เอง ทำให้ภาพของ ธุรกิจเครือข่าย กับงานขายตรง มีเพียงเส้นแบ่งความแตกต่างบางๆ ที่เห็นไม่ชัด ทั้งนี้เพราะ เทคนิค ลีลา และจังหวะของการนำเสนอ ของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน กลายเป็นการเซ้าซี้ ก่อให้เกิดความรำคาญ ทำให้จำเป็นต้องหลบหน้าคนชวนโดยอัตโนมัติ ยิ่งทำให้ภาพรวมของธุรกิจทั้งขายตรงและธุรกิจเครือข่ายติดลบมากขึ้น

mlm,Giffarine,ธุรกิจเครือข่าย,รายได้เสริม,กิฟฟารีนจริงๆ แล้วมีลักษณะสำคัญที่ทำให้ ธุรกิจเครือข่าย หรือMLM แตกต่างออกไปจากการขายตรงก็คือ การชวนคนใน ธุรกิจเครือข่าย หรือMLM นั้น ต้องไม่ใช่การเสนอขายสินค้า หรืออวดอ้างว่าแผนงานของบริษัทดีอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะทันทีที่คุณเสนอขาย ความคิดในทางลบจะผุดขึ้นในใจของผู้ฟังทันที ดังนั้นสำหรับธุรกิจเครือข่าย หรือMLM คุณไม่จำเป็นต้อง "ขาย" คุณเพียงแค่นำเสนอสิ่งที่คุณทำอยู่ว่าเป็นอย่างไรก็พอ ซึ่งตรงนี้แหละเป็นสิ่งสำคัญที่แต่ละคนจะต้องสร้างสรรค์เทคนิคกันเอาเอง จำไว้ว่า คนไม่ชอบถูกขาย แต่เขาจะมีความสุขที่ได้เลือกคิดพิจารณาในการซื้อของด้วยตัวเอง

ดังนั้น งานธุรกิจเครือข่าย หรือMLM จึ่งเป็นงานที่ต้องใช้เวลาซักพัก ไม่ใช่งานประเภทรวยเร็ว รวยลัด แบบที่ฝรั่งเรียก get rich scheme

MLM Onlife For Life

MLM Online For Life ©Template by Dicas Blogger.

TOPO