ความหมายของ MLM

การตลาดแบบหลายระดับชั้น (multi-level marketing: MLM) หรือ การตลาดแบบเครือข่าย(network marketing) หมายถึงระบบทางการตลาดแบบหลายระดับชั้น เป็นช่องทางการตลาดอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งของผู้ประกอบการทางธุรกิจ รวมทั้งผู้ผลิตสินค้า ที่จะกระจายสินค้า และ/หรือ บริการของตนสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง เช่น บริษัทจัดจำหน่าย พ่อค้าปลีก พ่อค้าส่ง รวมทั้งการทำการโฆษณาเหมือนระบบทางการตลาดแบบดั้งเดิมที่เป็นอยู่ แต่ถ้าเมื่อบริษัทขายตรงนั้นๆ ได้เติบโตอย่างเข้มแข็งเพียงพอแล้ว ก็อาจหันมาทำการโฆษณาเพื่อช่วยส่งเสริมในภายหลังก็ยังได้

ระบบเอ็มแอลเอ็มนี้ จะใช้หลักการกระจายสินค้าโดยตัวของผู้บริโภคสินค้าโดยตรงเป็นสำคัญ เป็นผู้กระจายสินค้า และ/หรือ บริการให้กับทางบริษัทขายตรงนั้นเอง ในลักษณะของการเป็นตัวแทนอิสระ หรือผู้จำหน่ายอิสระ หรือผู้บริโภคอิสระ แล้วแต่จะเรียกชื่อกันไป โดยผู้บริโภคท่านนั้นๆ จะต้องเข้าเป็นสมาชิกของบริษัทขายตรงนั้น เพื่อเข้าร่วมรับสิทธิในผลประโยชน์ทางการตลาดต่างๆ ซึ่งทางบริษัทขายตรงนั้นกำหนดให้ เพื่อเป็นค่าตอบแทนในการกระจายสินค้า และ/หรือ บริการสู่ผู้บริโภคท่านอื่นๆ ต่อไป ร่วมทั้งยังได้รับผลประโยชน์ในการชักจูงผู้บริโภครายใหม่ๆ เข้ามาเป็นสมาชิกร่วมในทีมงานของตนอีกด้วย ซึ่งถือว่าการชักจูงสมาชิก ใหม่ให้เข้าสู่ระบบเป็นสิ่งที่สำคัญหรือเป็นหัวใจสำคัญที่สุดสำหรับงานเอ็มแอลเอ็มมากๆ เลยก็ว่าได้

mlm,Giffarine,ธุรกิจเครือข่าย,รายได้เสริม,กิฟฟารีน

ลักษณะของธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น
* เงินลงทุนและค่าธรรมเนียมในการเริ่มต้นธุรกิจต่ำ เพียงจ่ายเงินค่าสมัครเพื่อรับคู่มือความรู้ เอกสารฝึกอบรม และผลิตภัณฑ์ตัวอย่างเท่านั้น หากต้องการลาออก บริษัทต้นสังกัดก็ยินดีคืนเงินค่าสมัคร และค่าผลิตภัณฑ์ที่ได้ซื้อไปเต็มจำนวนด้วย
* จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลากชนิดที่มีคุณภาพสูง ยอดขายจะมาจากการจำหน่ายสินค้า ได้ซ้ำหลายครั้ง และความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ ดังนั้นบริษัทจะทุ่มเทเงิน ลงทุนเพื่อการวิจัย ค้นคว้าและพัฒนา คุณภาพของสินค้า
* รับประกันคุณภาพและความพอใจในตัวสินค้า ลูกค้าสามารถเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้หากไม่พึงพอใจภายในระยะเวลาที่กำหนด
* ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจในระยะยาวเป็นสำคัญ เพราะบริษัทต้องมีความรับผิดชอบต่อนักขาย ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง
* การจ่ายผลประโยชน์ รายได้ และตำแหน่งขึ้นอยู่กับการทำงานของนักขาย นั่นหมายถึง รายได้จะมาจากยอดขายที่ขายสินค้าได้
* การก่อตั้งธุรกิจขึ้นอยู่กับการขายสินค้าคุณภาพ ซึ่งคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป และบริษัทจะให้ความสนใจในการขยายตลาดให้กว้างออกไป
* มีนักขายอิสระที่อาศัยการขายสินค้าเพื่อสร้างรายได้
* มีกฎระเบียบที่เข้มงวดในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะมีข้อห้ามมิให้นักขายกักตุนสินค้า
* นักขายจะเน้นในเรื่องการขายสินค้าและการให้บริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง
* เป็นการขายสินค้าอีกรูปแบบหนึ่งนอกเหนือจากการขายตามห้างสรรพสินค้าหรือ ร้านค้าปลีก และเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งผู้บริโภค นักขาย และบริษัทขายตรงได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
(อ้างอิงจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)

MLM Onlife For Life

ความหมายของการตลาด

การตลาด(Marketing) มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนาน และได้มีผู้ให้ความหมายหรือนิยามของการตลาดไว้เป็นจำนวนมาก เช่น
Peter Drucker ให้ความหมายของการตลาด ดังนี้ "การตลาด คือความพยายามทำให้การขายขยายกว้างออกไป และด้วยความรวดเร็วที่สุด"
William J. Stanton ได้ กล่าวไว้ว่า "การตลาด หมายถึง กิจกรรมทางธุรกิจทั้งหมด ที่สามารถส่งผลกระทบระหว่างกันได้ เช่น การกำหนดราคา การจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการ และการส่งเสริมการตลาด เพื่อให้ตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้า ทั้งในปัจจุบันและผู้ที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคต"
สมาคมการตลาดแห่งสหรัฐอเมริกา (The American Marketing Association: AMA) ให้ให้นิยามคำว่าการตลาดไว้ดังนี้ "การตลาด หมายถึง กระบวนการวางแผนและบริหารในด้านแนวความคิด การกำหนดราคา การส่งเสริมการตลาด การจัดจำหน่ายสินค้าหรือบริการ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับความสุขความพอใจและบรรลุวัตถุประชสงค์ขององค์กร"
Dr. Philip Kotler ศาสตราจารย์หรือกูรูด้านการตลาดที่มีชื่อเสียงของประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ให้นิยามของการตลาดว่า "การตลาด คือ กระบวนการทางสังคมและการจัดการที่ทำให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลได้รับสิ่งที่ตอบ สนองความจำเป็น (needs) และความต้องการ (wants) โดยอาศัยการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าและนำไปแลกเปลี่ยนกับบุคคลอื่น”

การตลาด คือ การนำสินค้าหรือบริการเคลื่อนที่จากผู้ผลิดไปสู่ผู้บริโภค ซึ่งมี 3 วิธีหลัก ในการเคลื่อนสินค้าหรือบริการ

  1. Retailing หรือ การขายปลีก คิดว่าทุกคนรู้จักคุ้นเคยกับระบบนี้ดีอยู่แล้ว เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคน มันคือการเดินเข้าไปในร้านขายของอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งเราเรียกว่า Retailer หรือผ้ค้าปลีก ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของชำ ร้านขายยา ร้านขายวัสดุก่อสร้าง หรือห้างสรรพสินค้า ฯลฯ แล้วซื้อสินค้าที่คุณต้องการออกมา
  2. Direct Sales หรือ การขายตรง คือการนำสินค้าเคลื่อนที่เข้าไปสู่ผู้บริโภค ผ่านช่องทางและเทคนิคการขายโดยไม่มีคนกลางตามแบบข้อที่1 เช่น ร้าน Retail หรือ บริษัทตัวแทนจำหน่ายเช่น การไปตามบ้านคนที่คาดหมายว่าน่าจะเป็นลูกค้าได้เพื่อนำเสนอสินค้า การโทรศัพท์ไปนำเสนอสินค้าให้กับบุคคลต่างๆ การขายตรงบางครั้งถือว่าเป็นการขายที่ไม่มีพ่อค้าคนกลาง
  3. Multi-Level Marketing หรือ การตลาดแบบเครือข่าย บางครั้งก็เรียก MLM ว่าเป็นNetwork Marketing เพราะเป็นการสร้างเครือข่ายที่ทำให้มีการกระจายสินค้าโดยตัวของคุณเอง โดยการขายจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาโดยธรรมชาติจากการสร้างองค์กร เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การขายก็ยังคงเป็นรากฐานของธุรกิจทุกประเภท เพียงแต่การขายในธุรกิจเครือข่ายนั้นมาจากการที่ผู้จำหน่าย"แบ่งปัน" ธุรกิจ คือคนในเครือข่ายจะซื้อสินค้าได้ในราคาขายส่ง (ซึ่งบริษัทคาดหวังว่าคุณควรจะเป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง)หลายคนเข้าร่วมทำธุรกิจเพราะเหตุผลข้อนี้ คือไม่ได้เน้นเรื่องการขายเป็นหลัก ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้นมาจาก "การสร้างองค์กร"
ทั้ง 3 วิธีที่กล่าวมาถือเป็นรูปแบบของการตลาดที่แท้จริง และได้รับการยอมรับตามกฎหมาย แต่ในปัจจุบันได้มีธุรกิจรูปแบบใหม่เกิดขึ้น ซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งได้รับการเรียกว่าเป็นธุรกิจ แบบปิรามิด หรือแชร์ลูกโซ่นั่นเอง และมักถูกเข้าใจสับสนกับ MLM ทำให้ธุรกิจ MLM ถูกมองไปในทางไม่ดี แชร์ลูกโซ่นั้นเป็นการเอาเงินที่ได้รับจากคนที่มาสมัครต่อในลำดับล่างขึ้นมาโปะให้กับคนทางด้านบน ซึ่งธุรกิจแบบนี้นั้นในปัจจุบันยังถือว่าผิดกฎหมาย เพราะว่ามันไม่มีหรือไม่สามารถที่จะเคลื่อนทีผลิตภัณฑ์ หรือ บริการไปสู่ผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง

MLM Onlife For Life

MLM Online For Life ©Template by Dicas Blogger.

TOPO